เรียนต่อต่างประเทศ

เทคนิค สวย เก่ง Mindset เป็นเลิศ “น้องอ้อ” นักเรียนไทยที่นอกจากสวย แซ่บ ใช้ชีวิตเต็มที่ ยังเรียนเก่งด้วยจ้า

สวย เก่ง Mindset เป็นเลิศ น้องอ้อนักเรียนไทยที่นอกจากสวย แซ่บ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ แต่ยังแบ่งเวลาเรียน (กระซิบว่า Attendance เต็ม 100%) และทำงาน Part-time ไปด้วย จัดสรรเวลาได้ดีมากๆ พร้อมกับเทคนิคการสัมภาษณ์งานที่น้องอ้อบอกว่าสมัครที่ไหนตอบแบบนี้ รับทุกราย ไปทำความรู้จักกับน้องอ้อกันเลยค่ะ

Q: ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยค่า แล้วตอนนี้เรียนคอร์สอะไรอยู่

สวัสดีค่ะ ชื่อ ต้นอ้อ โสภิตา แซ่ลี้ นะคะ ตอนนี้พึ่งเรียนจบคอร์ส General English อยู่ที่ Milestones English ค่ะ กำลังต่อคอร์ส Certificate IV และคอร์สDiploma of Marketing and Communication ที่ Education Centre of Australia (EAC) ค่ะ

Q: ทำไมถึงเลือกมา เรียนต่อที่ประเทศ ออสเตรเลีย ค่ะ

ก็คิดว่ายังไงเราก็ต้องอยู่ที่ไทย ทำงานที่ไทย เลยคุยกับที่บ้านว่าเราอยากขอไปฝึกภาษาไปเรียนต่างประเทศซักช่วงนึง เพื่อให้เรามีประสบการณ์และทำให้เราได้เห็นโลกมากขึ้น

เรียนต่อต่างประเทศ

Q: ข้อแตกต่างในการเรียนภาษาอังกฤษของที่ไทยกับที่ออสเตรเลียต่างกันมากแค่ไหนค่ะ

มันแตกต่างมาก ตอนหนูเรียนที่ไทย หนูเรียนเอกภาษาอังฤษที่มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เรียน 4 ปีนะคะ แต่หนูรู้สึกว่าการใช้ภาษาของหนูมันคือการท่องจำมาก ๆ แล้วคือต้องจำว่าใช้ Tense อะไร จำเอาอะคะ ว่า Tense นี้ต้องใช้กับอันนี้นะ แต่พอมาเรียนที่นี เราได้เรียนรู้การใช้ประโยคที่ถูกต้อง แต่ตอนที่ไทยเราใช้ผิดกันมาตลอด แล้วการสอนของเค้ามันไม่เหมือนที่ไทยนะคะ ซึ่งก็อธิบายไม่ได้ว่ายังไง แต่ทำให้เราเข้าใจ จนเอามาใช้ได้อย่างถูกต้อง เช่นคนไทยจะชอบพูดโดยที่ไม่มี subject ,verb, objective แต่เราจะพูดแบบ Go eat อะไรแบบนี้ ซึ่งพอ teacher ได้ยินเค้าก็จะแบบยูพูดแบบนี้ไม่ได้นะมันผิด แล้วเค้าจะแก้ให้เราเลย อะไรแบบนี้ซึ่งเราไม่ต้องท่องจำ เรียนรู้จากการใช้จริงๆ มันก็จะพูดได้ไปโดยธรรมชาติ

Q: ตอนนี้นอกจากเรียนไปด้วยก็ยังทำงานไปด้วย มีเทคนิคการหางานที่ต่างประเทศอย่างไรบ้างคะ แล้วทำงานอะไรบ้าง

เทคนิคการหางานคือหาเองเลยค่ะ เริ่มแรกก็หาตามเว็บไซด์คนไทย คือ Aussietip ก็ได้งานร้านอาหารไทยค่ะ แต่พอทำไปเรื่อยๆ แล้วมันรู้สึกได้ว่า นี้มันไม่ใช่ทางของเราค่ะ คือจะเรียกว่าอะไรดี ด้วยความที่เราเจอคนไทยทุกวันมันไม่ค่อยได้ฝึกภาษา เพราะเราก็พูดภาษาไทย เม้าท์มอยกันแต่ภาษาไทย แต่ด้วยความที่หนูเป็นคนทะเยอทะยานมากก็เลยพยายามหางานที่เป็นร้านฝรั่ง ก็เลยไปรู้จักคนนึงซึ่งก็ด้วยจังหวะด้วย เพื่อนก็แนะนำว่าเออไปลองทำไหม หนูก็เลยได้ไปลองทำที่ night club ซึ่งพนักงานเป็นคนออสซี่หมดเลยค่ะ ซึ่งหนูได้ทำงานก็ได้ใช้ภาษาอังกฤษตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่นั้นมาหนูก็เลยจะเลือกงานมากขึ้น ซึ่งหนูจะเลือกงานที่ได้ทำงานกับคนออสซี่จริงๆ หรือคนต่างชาติเท่านั้น หลักๆตอนนี้เลยทำงานที่ร้านฝรั่งซะส่วนใหญ่ค่ะ ส่วนร้านไทยก็ยังทำบ้างนะคะ ที่ร้านก็ดูแลดีนะคะเช่นเรื่องอาหาร แต่ค่าแรงอาจจะไม่เยอะเท่าไร

งานที่ทำร้านฝรั่งมันไม่ใช่งานประจำนะคะเป็นแบบ casual แบบเป็น Event อะไรแบบนี้ แบบวันนี้ยุ่ง อยากให้ไปช่วยก็ไป คือที่หนูมาที่นี่หลักๆ คือตั้งใจมาเน้นเรียนบวกกับหาประสบการณ์ คือเราจ่ายค่าเรียนมาแล้วถ้าเรามามัวคิดแต่ทำงาน มันก็เหนื่อยเราไป แล้วบางคนคือมาเน้นทำงาน แล้วไม่ได้สนุกกับชีวิตแล้วบอกมาออสเตรเลียแล้วไม่ดี อยากกลับบ้าน แต่สำหรับหนูคือหนูไม่เป็นแบบนั้น คือสำหรับหนูถ้าอาทิตย์ไหนหนูทำงานเยอะหนูก็จะบอกเจ้านายว่าเดี๋ยววันมะรืนชั้นขอหยุดนะ ชั้นเหนื่อย ชั้นอยากพัก แล้วเจ้านายคนออสซี่ สำหรับงาน Casual แบบหนูเค้าเข้าใจนะว่าเราไม่ใช่พนักงานประจำ เค้าก็จะแบบ Ok fine ซึ่งเราก็ใช้ชีวิตแบบนี้มาตลอด 6 เดือนนะพี่ เรียนด้วย ทำงานแบบไม่ได้เคร่งด้วย เลยทำให้เราสนุก อยากอยู่ต่อ มีความสุข คือ Full option มากพี่ ทั้งเรียนด้วย ทำงานด้วย เที่ยวด้วย สนุกกับชีวิต หนูรู้สึกว่าการมาอยู่ที่นี่มันต้องอยู่แบบได้ใช้ชีวิตอ่ะพี่ ไม่ใช่มาเพื่อทำงานไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน ถ้าหนูทำแบบนั้นนะ 5 เดือนคงอยากกลับบ้านแล้วล่ะ แล้วเราชอบเจอคน อยากมีเพื่อนใหม่ๆ อยากใช้ภาษา เราเลยสนุกกับการไปเรียน ไปเจอคน ทำงาน ไปเที่ยว แรกๆก่อนมาหนูคิดว่านอกจากเรียนแล้วคงทำงานเก็บเงินได้เยอะแน่ๆ เพราะได้ยินเค้าพูดกันมาว่าแบบเก็บเงินได้เป็นแสนๆ แต่พอมาจริงๆ เราเองก็ทำงานหลายชั่วโมงแบบบางคนไม่ได้ เพราะเราก็เป็นวีซ่านักเรียนด้วย

เรียนต่อต่างประเทศ

Q: แล้วสมัครงานร้านฝรั่งด้วยไม่กลัวเหรอค่ะ มีอุปสรรคในการทำงานบ้างไหมค่ะ

หนูเคยเจอพี่ที่ร้านไทยที่ขยันและทำงานเก่งมาก หนูถามเค้าว่าทำไมพี่ไม่ไปสมัครงานร้านฝรั่ง ได้เรตค่าแรงดีกว่า เค้าบอกโอ้ยพี่ทำไม่ได้หรอก พี่ไม่มั่นใจ คือแบบพี่เค้าทำงานเก่งมากนะ แต่กลัว ส่วนหนู หนูไม่เก่ง แต่หนูไม่กลัว หนูเป็นคนมั่นใจ เวลาหนูสัมภาษณ์งานนะ เค้าถามว่ายูทำอันนี้เป็นไหม ในใจคือรู้แหล่ะ ว่าทำไม่ได้ แต่เราบอกเค้า เราจะมีคำนึงที่เราจะบอกทุกครั้งที่ไปสมัครงาน คือชั้นทำไม่ได้หรอก แต่ให้เวลาชั้นเต็มที่ 1 อาทิตย์แล้วชั้นจะคล่องเลย ยูรอดู รับทุกรายพี่ แล้วเราก็ทำได้จริงๆ เพราะเรามั่นใจ แล้วยิ่งเราพูดไว้แล้ว เรายิ่งอยากทำให้ได้ ถ้าเรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำมันจะออกมาดี ยังไงก็ทำได้ อย่าไปคิดดูถูกตัวเอง คือยังไม่ได้ลองเลย

ส่วนอุปสรรคก็มีบ้างค่ะร้านฝรั่ง แรกๆ เค้าพูดอะไรหนูก็ตอบ yes yes อย่างเดียวซึ่งเราก็ไม่ได้เข้าใจจริงๆ แต่เพราะเราไม่อยากให้เค้ารู้ว่าเราพูดไม่เป็นอ่ะ แต่พอทำไปซักพักเราก็เริ่มเข้าใจไปเอง แล้วยิ่งเราเรียนไปด้วยมันก็ได้ใช้ ได้ฝึก หนูมาเรียนตอนนี้ก็ 6 เดือนแล้ว ก็เริ่มคุยกับเค้ารู้เรื่องตั้งแต่ช่วง 3 เดือนแรกแล้วที่แบบเริ่มรู้สึกว่าพูดได้คล่อง แล้วที่โรงเรียนเราก็มีเพื่อนๆ ต่างชาติเยอะ เช่น โคลัมเบียน เม็กซิกัน ต่างชาติค่อนข้างเยอะ เค้าเองก็ต้องการฝึกภาษาเหมือนกับเรา มันเลยเป็นแบบ International students มา communicate กัน ถ้าเราไม่เข้าใจกันเอง เราก็สื่อสารกันไม่ได้อ่ะ มันก็ต้องพยายาม แรกๆยังต้องใช้ภาษามือกันเลยค่ะ หลังๆ ก็สื่อสารกันคล่อง คุยกันสบาย

Q: ชอบ/ ไม่ชอบอะไรกับชีวิตที่ออสเตรเลียบ้าง

หนูชอบที่ทุกอย่างที่นี้มันแฟร์มาก เช่นการทำงาน ทำกี่ชั่วโมงต้องจ่ายตามนื้ แบบ 1 ชั่วโมง 15 นาทีก็จ่ายตามนี้ แต่ด้วยความแฟร์มากๆ มันก็ตึงไปคือมันไม่มีหยวนๆ เลย แต่แบบมันก็ดีนะคะ เพราะอย่างที่ไทย เราก็แบบนิดๆ หน่อยๆ ช่วยๆ กัน แต่ที่นี้คือ ทำเกินมา 15 นาทีก็จ่ายเลยแบบ  เออทำให้เราไม่โดนเอาเปรียบ แล้วที่นี่หนูมีเพื่อนเป็นคนออสซี่เยอะ เค้ารู้ว่าเราแบบเป็นนักเรียนไม่ได้มีรายได้อะไรมาก เค้าช่วยอะไรได้ก็ช่วยแบบดึกๆ ก็ขับรถไปส่งอะไรแบบนี้ มันเป็นน้ำใจเล็กๆ ที่เราไม่คิดว่าจะได้เจอที่นี เพราะหนูรู้สึกว่าบางคนที่เราเจอ คือจะมีความเห็นแก่ตัวจะพูดยังไงดี คือเราไม่ได้ว่าเค้านะ แต่บางคนเราไม่คิดว่าเค้าจะนึกถึงคนอื่น พอได้เจอคนดีๆ เลยทำให้เราไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว เลยมีความคิดที่ว่า ถ้าเรามีเราก็แชร์อะไรเล็กๆ น้อยๆ ได้ เราก็จะแชร์

Q: การอาศัยอยู่ต่างแดนมันให้บทเรียนชีวิตอะไรกับเราบ้าง

Freedom ค่ะ อยู่ที่นี่มัน Freedom มากๆ หนูจะแต่งตัวยังไงก็ได้ ไม่มีใครแคร์ แต่อยู่ที่ไทย เราแต่งตัวก็ต้องเกรงใจคนอื่น แต่อยู่ที่นี่ อยากใส่อะไรชั้นก็จะใส่ เพราะทุกคนเค้าไม่มาแคร์เราว่าแบบแต่งตัวอะไรอ่ะ แล้วที่นี่เราได้เจอคนหลายแบบ ทำให้เราเห็นโลกกว้างขึ้น หนูเจอเพื่อนคน Canadian เขาเป็นติสท์ ๆ เค้าอาศัยในกลุ่มที่มีแต่คนแปลก ๆ เป็นกลุ่มของเขา เขาหาอาหารจากถังขยะมากิน แต่แบบไม่ใช่ว่าไปคุ้ยๆ ในถังขยะนะคะ คือแบบเขาจะเลือกอาหารที่กินเหลือหรืออาหารที่คนอื่นเขาทิ้ง แล้วถ้าวันไหนที่อากาศดี เขาบอกคนทั้งกลุ่มก็จะแก้ผ้าเลยนะ แล้วย่านนั้นจะมีแต่พวกยุโรปเยอะมาก หนูเจอเพื่อนคนสเปนที่เป็น Vegan (มังสวิรัติ) เราก็ได้คุยกับเขาว่าเขากินเพราะอะไร ก็ทำให้เข้าใจมุมมองของเขา ทำให้โลกของเรามันกว้างมากอ่ะพี่ แล้วมุมมองเราไม่ได้แคบเหมือนตอนอยู่ที่ไทย หนูรู้สึกว่าหนูได้อะไรเยอะมาก มากกว่าแค่การเรียน ได้เจอคนหลายๆ ประเภท แล้วด้วยความที่เจอคนเยอะ ได้ connection เยอะมาก ได้เพื่อนเยอะมาก ซึ่งหนูรู้สึกว่าการมี connection มันสำคัญมากมากๆ เลย

เรียนต่อต่างประเทศ

Q: มีข้อคิดอะไรอยากฝากไว้กับคนที่อยากมาเรียนต่างประเทศแต่กลัว กลัวไม่มีเพื่อน กลัวอยู่ไม่ได้ อะไรแบบนี้บ้างไหมค่ะ

เอาจริงๆ ก่อนมาหนูก็กลัว หนูอยู่กับพ่อกับแม่มาตลอด 20 กว่าปี ตื่นมาก็บอกแม่ บอกพ่อว่า “หิวข้าว” ซักพักก็ได้กินแล้ว แต่พอมาอยู่ที่นี่มันอยู่คนเดียว ให้คิดไว้เลยว่าเราก็ต้องทำอะไรเอง ยังไงเราก็ต้องอยู่ได้ ทุกคนอยู่ได้ เราก็ต้องอยู่ได้ ก่อนมาแม่ก็ห่วงนะ ว่าแบบหนูจะอยู่ยังไง จะทำอะไรยังไง เพราะอยู่ที่ไทย พ่อแม่ทำให้หนูหมด แล้วที่ไทยหนูไม่เคยทำงาน พอมาอยู่ที่นี่หนูก็ทำงาน แต่ไม่ได้ทำเอาเป็นเอาตาย ทำแค่พอให้มีค่าห้อง ค่าข้าว ค่าเรียน หนูไม่ได้ทำงานเพื่อให้มีเงินเก็บเป็นแสนเป็นล้าน เพราะเราอยู่ที่นี่ได้ช่วงเวลาสั้นๆ ไม่กี่ปี เราไม่ได้มาเพื่อกอบโกยเอาเงินในประเทศเขา แต่เรามาเพื่อเอาประสบการณ์ การได้มาเรียนที่นี่มันคุ้มค่ามากนะพี่ มันคุ้มกว่าที่เราจะมัวนั่งกลัวอยู่ที่บ้านแล้วไม่กล้าไปสักที ถ้าอยู่ที่ไทยตลอดชีวิต มุมมองเรามันเล็กมาก ถ้าหนูยังอยู่ที่ไทยตอนนี้หนูก็คงไม่ได้ทำงาน คงอยู่บ้านเฉยๆ มาที่นี่ให้อะไรกับหนูเยอะมาก แล้วสิ่งสำคัญที่หนูได้เรียนรู้นอกจากการเรียนคือการเลือกงาน หนูจะไม่ทำงานเพียงเพื่อต้องการเงิน ถ้าหนูต้องตรากตรำทำงานที่หนูไม่แฮปปี้ ตอนนี้หนูก็แค่ไม่ทำ เพราะหนูเคยทำงานที่หนูไม่อยากทำมาแล้ว แล้วหนูเชื่อว่ามันมีที่อื่นที่มันเหมาะกับเราอีกตั้งเยอะแยะ มาอยู่ที่นี่หนูได้มุมมองชีวิตเยอะมาก ว่าถ้ากลับไปไทย หนูจะเลือกงานที่หนูอยากทำจริงๆ เราได้เห็นความหมายของชีวิตค่ะ

Q: แชร์ประสบการณ์การเรียนและชีวิตแล้ว แล้วประสบการณ์กับไทคูนล่ะคะ

อย่างหนูเองกำลังจะต่อวีซ่า แล้วพี่ๆ หาโรงเรียนให้หนูเยอะมาก จนหนูรู้สึกเกรงใจ แต่พอวันนั้นหนูมาคุยกับพี่เมย์ แล้วหนูบอกหนูเกรงใจจังเลย พี่เค้าบอกไม่เป็นไรน้องอ้อ พี่อยากหาโรงเรียนที่หนูอยู่แล้วมีความสุข แล้วคือหนูจ่ายเงินเพื่อมาเรียน ไม่ได้เพื่อเอาวีซ่าเฉยๆ แล้วเค้าอยากให้หนูเรียนที่เหมาะกับหนูก็แล้วหนูจะมีความสุขกับการเรียน แล้วโรงเรียนที่หนูเลือกตั้งแต่หนูมาคือที่ MILESTONES ENGLISH หนูแฮปปี้มาก หนูสนุก หนูมีความสุขเวลาไปเรียน หนูไม่เคยโดดเรียนเลย เจอครูดี เพื่อนดี เพื่อนต่างชาติก็เยอะ แล้วพี่เขาจะดูว่าเราชอบโรงเรียนแนวไหน แบบชอบต่างชาติ เลยหาแบบคนไทยไม่เยอะด้วย

เรียนต่อต่างประเทศ
เรียนต่อต่างประเทศ

สอบถามข้อมูล เรียนต่อต่างประเทศ

📌 Melbourne office
Tel: +61422211183
LINE: @Tycoonedu
Facebook: Tycoon Education

📌 ไทคูน กรุงเทพฯ
โทร:
+66 81 689 1263
LINE: @Tycoonedu
Facebook: Tycoon Education

📌 ไทคูนหาดใหญ่ ภาคใต้
โทร: +66 88 961 9744
LINE: Tycoonhatyai
Facebook: Tycoon Education ภาคใต้

Share on facebook
แชร์บทความ